12 มิถุนายน 2566
เรื่องสั้น : สีดำในอาณาเขตของสายตา - นวศรี ชนมหาตระกูล
สีดำในอาณาเขตของสายตา
นวศรี ชนมหาตระกูล

        สีประจำตัวของฉันเป็นสีดำ ค่ำคืนเป็นสีดำ และฉันมองเห็นได้ดีท่ามกลางสีเหล่านั้นหากคุณมีคำถามว่าทำไมไม่มองดูสิ่งต่าง ๆ ตอนที่ยังสว่างฉันตอบคุณได้ว่าในที่โล่งแจ้ง สีดำที่แตกต่างกันมักถูกละเลยเสมอ
        ค่ำนี้ก็เป็นอีกวัน ไฟส้มชัดเจนบนถนนทึมเทา เงาผู้คนปะปนสับสน บางปะกอกคึกคักเสมอพื้นที่แค่ระยะห้าป้ายรถเมล์ครบครันทั้งวัด ป่าไผ่ โรงเรียน ธนาคาร โรงพยาบาลปั๊มน้ำมัน
ห้างสามแห่งและเซเว่นทุกปากซอย เวลาสองทุ่มกว่า นักเรียนซื้อของจากแม่ค้าคนสั่งพวงหรีดให้กับวัดเดินปนกับคนเพิ่งออกจากโรงพยาบาล เหล่าคนทำงานสวมเสื้อต่างสีเดินสวนกัน
        คุณคิดว่า สีดำจะอยู่ที่ตรงไหน ?
        ป้ายรถเมล์เป็นพื้นที่เฉพาะสำหรับฉันเสมอ รถครีมแดง มินิบัสส้ม รถแอร์น้ำเงิน ควันเทาท่อมอเตอร์ไซค์ แผ่นไม้สีน้ำตาลบนรถบรรทุก ทั้งหมดแล่นผ่านพื้นที่สามสะพานลอยไปสู่ขอบเขตใหม่ด้านหนึ่งคือพระรามสอง อีกด้านคือบางปะแก้ว อีกฝั่งคือประชาอุทิศ และอีกทางคือพระประแดง
        รถราพาผู้คนวิ่งผ่านไป ท่ามกลางการเคลื่อนไหว สีดำสงบนิ่งอยู่ในที่ของมัน
        คุณอาจมีคำถามว่าสีดำของที่นี่คือสิ่งใด ฉันควรบอกคุณไว้ก่อน สีดำของแต่ละคนต่างกัน สีดำเองก็มีหลายระดับในนั้น และไม่ใช่ทุกคนหรอกนะ ที่จะมองเห็นมัน
        แต่หากคุณมีโชค บางครั้งคุณอาจเห็นสีดำเป็นฝ่ายเข้าหา และบางคราว เกิดการดึงดูดซึ่งกัน
        ค่ำคืนคืบคลานเชื่องช้า สีดำค่อย ๆ เด่นชัด ฉันหยุดนิ่งอยู่ป้ายรถเมล์ เฝ้ามองสีดำในแต่ละพื้นที่ เงาดำรวมกลุ่มบนพื้นสะพานลอย บ้างซุ่มซ่อนอยู่หลังป้ายรถเมล์ที่มีคำเขียนเตือนว่าระวังกระเป๋าหาย คนเขียนคำเตือนนั้นเองก็เป็นสีดำนอนหนุนกระเป๋าริมทางเท้า เงาดำเดินหายไปในป่าไผ่ ควันเทาลอยล่องเศษซากฟอยล์เผา สีดำตัวเล็กตัวน้อยนั่งริมถนน สูดอากาศจากในถุงพลาสติก แม่ค้าผัดกับข้าวด้วยรอยยิ้มสีดำ พูดคุยจ้างวานสีดำให้ทำงานทวงหนี้ สีดำนอนแน่นิ่งหลังไม่ชำระหนี้และกลายเป็นสีดำที่ฝังคราบลงถาวร ท่ามกลางสีดำที่เคลื่อนไหวและถาวร ทันใดนั้น ฉันเหมือนเห็นดวงดาว...
        ดวงดาวอยู่ท่ามกลางสีดำบนสะพานลอย ดาวสองดวงคือดวงตาคู่นั้นที่จ้องมองไปในสีดำเดียวกัน สายตาเราพบสบตาฉันบอกคุณหรือยังว่าหากถูกสีดำมองเห็นเข้า การแสร้งทำเป็นไม่เห็น การยอมรับว่าได้เห็น การหนี การเผชิญหน้า เป็นตัวเลือกที่อาจเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตคุณได้
        เจ้าของสายตานั้นเดินลงจากสะพาน ใกล้เข้ามายังป้ายรถเมล์ ผู้คนมีอยู่มากมาย แต่ฉันรู้ดีว่าสายตานั้นจับจ้องมองใคร ฉันเลือกหนีตอนนี้ หรือจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็ได้
        แต่คุณเข้าใจใช่ไหม ใครเล่าจะปฏิเสธดวงดาวได้
        “พี่เห็นผม” สีดำผู้มีดวงดาวเป็นแววตาคือเด็กชายร่างเล็ก หากได้เรียนคงอยู่ชั้นประถมต้น ฉันพยักหน้า รอเห็นเฉดสีที่เขาเป็น จนเด็กชายเอ่ยปากขอเงิน ฉันจึงเข้าใจ สีดำตัวเล็กเป็นดาวไถสาดแสงแพรวพราว  
        หากคุณอยากลองขยายขอบเขตของสายตา ลองเพ่งมองสิ่งของตรงหน้า รับรู้ สัมผัส ถาม และตอบกับตัวเองว่าคุณเห็นสิ่งใด ฉันมองดูเด็กชายตัวน้อยที่เพิ่งขอเงินไป เรานั่งตรงข้ามกัน คั่นกลางด้วยแผ่นเมนูร้านอาหารป้าบนทางเท้าที่แอบขายช่วงดึกหน้าธนาคาร จ่ายค่าคุ้มครองแล้วให้แก่สีดำเด็กชายบ่นหิว ร้องขอเงินไปซื้อข้าว ฉันจูงมือเด็กชายมาที่ร้าน ซื้อเวลาในการเฝ้ามองกันและกันอีกหน่อย
       ถ้าคุณถามฉันว่ามองเห็นสิ่งใด ฉันตอบได้ว่าสีดำในตัวเด็กชายเข้มข้นทีเดียว
       ข้าวผัดหมูพร้อมน้ำอัดลมสีดำวางอยู่ตรงหน้า เด็กชายใช้ช้อนส้อมเขี่ยคะน้าหอมใหญ่มะเขือเทศ ยกมือคว้าแก้วน้ำแกว่งไปมาราวกับว่าเป็นเครื่องดื่มสีดำชนิดอื่น สีดำบางชนิดซึมซับจากการพบเห็นคนใกล้ตัวมาก่อน ป้าแม่ค้าเดินมาเล่าว่าเด็กชายมีพื้นหลังอย่างไร ครอบครัวทุกคนเร่ขอเงินคนตั้งแต่ตากับยาย พ่อแบมือขอที่ป้ายรถเมล์โรงเรียน แม่ขอทานบนสะพานลอยหน้าห้าง พี่ชายร่อนเร่ขอเงินคนหน้าโรงพยาบาล และเด็กชายก็มักจะปักหลักเอาแถวนี้  
        เด็กชายไม่ตอบโต้ป้าแม่ค้าแต่อย่างใด มือเล็กกำแก้วไว้แน่นพร้อมเขวี้ยง สีดำแผ่ขยายจากน้ำดำไปสู่มือนั้น หากคุณให้ฉันลองถามตอบตัวเองว่าเห็นอะไร ฉันเห็นภาพเด็กชายตัวคนเดียว มีแก้วแค่ใบเดียวเพื่อใช้ปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง
        สีดำที่มองเห็นกันและกัน มักมองเห็นดวงดาวข้างในกันและกัน
        เด็กชายตัวเล็กเดินตามฉันไปในซอยตรงข้ามตลาด บ้านของเราทั้งคู่อยู่ซอยเดียวกัน ความคึกคักปากซอยกลืนหายไปในสีดำ สีดำที่เด่นชัดในสายตาเราทั้งสองโค้งมุมซอยที่วินมอเตอร์ไซค์ให้ข้าวหมาแมวอาบด้วยเลือดของร่างวินมอเตอร์ไซค์ใจบุญคนนั้นเองหลังมีเรื่องกับกลุ่มวัยรุ่นซิ่งรถ ซอกซอยมีบ่อน ยา และตำรวจที่รอรับค่าคุ้มครองป้ายประกาศตามหาโจรที่หนีหายหมายถึงตามล่าผู้ร้ายมาลงทัณฑ์ให้สาสม ฟันแต่ละซี่ของสีดำมีราคาที่สีดำอีกระดับพร้อมจ่าย ไฟยังคงสว่างจากเซเว่นที่มีทั้งหน้าปากซอยและในซอย เด็กชายบอกฉันให้หยุดอยู่หน้าร้าน ไฟสว่างเจิดจ้าของเซเว่นส่องให้ฉันเห็นเด็กชายชัดเจนขึ้น ร่างเล็กผอมแห้งเนื้อตัวมอมแมม เสื้อผ้าเก่าขาด ผมรองทรงพร้อมรอยไถลึกติดหนังหัว เด็กชายเรียนอยู่ชั้นประถมสามแล้ว เขาล้วงมือคว้าลูกอมฮาร์ทบีทสีชมพูในกระเป๋ากางเกง แต่ชมพูร่วงหล่นที่พื้น เมื่อร่างเล็กก้มเก็บ ชายเสื้อเลิกขึ้น ฉันจึงเห็นม่วงเขียวและน้ำตาลเป็นริ้วรอยอยู่เต็มลำตัวนั้น
        เด็กชายบอกฉัน...บางคราวเด็กดื้อก็ต้องถูกตี แล้วเด็กดีของฉันก็ยื่นลูกอมส่งมาให้ สีดำรวมเราทั้งคู่ไว้ขณะเดินข้างกัน ยิ้มให้กัน ตลอดทางซ้ายขวาของฉันและเด็กชายเป็นตึกของการเคหะฯ เรียงราย ไล่ตามตัวอักษรเรื่อยไปตั้งแต่ A B C D…
        ฉันโบกมือลาและแยกจากไปในตึก D มองจากระเบียงตึก ร่างเล็กกลืนหายไปกับสีดำสนิทกลางค่ำคืน
        คุณคิดว่า สายตาของฉันมองเห็นเด็กชายชัดดีพอหรือยัง ?
        หากต้องการเห็นสิ่งใดให้แจ่มชัด การค้นหาผ่านเว็บไซต์กูเกิลเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการทำให้กระจ่าง ง่ายเพียงปลายนิ้วคลิก ยากในการเลือกอ่านจากข้อมูลนับร้อยพัน ทันทีที่ก้าวเข้าห้องยี่สิบหกตารางวาของการเคหะฯฉันเปิดคอมพิวเตอร์ จดจ่อกับหน้าจอสี่เหลี่ยม และพิมพ์คำค้นหาลงไป... เด็กเร่ร่อน
        “เด็กเร่ร่อน ปัญหาสังคมไทยที่ไม่ควรมองข้าม"1
        ฉันเลื่อนอ่านทุกถ้อยคำ มองหาใจความที่ช่วยให้เห็นเด็กชายชัดเจนขึ้น แสงสีแรกปะทะเข้าตา
        “ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 มาตรา 52... เด็กและเยาวชนมีสิทธิในการอยู่รอด และได้รับการพัฒนาด้านร่างกายจิตใจและสติปัญญาตามศักยภาพในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมโดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนเป็นสำคัญ”
        “เด็ก เยาวชน สตรี และบุคคลในครอบครัว มีสิทธิได้รับความคุ้มครองจากรัฐให้ปราศจากการใช้ความรุนแรงและการปฏิบัติอันไม่เป็นธรรม ทั้งมีสิทธิได้รับการฟื้นฟูในกรณีที่มีเหตุดังกล่าว”
        อนาคตของชาติดูสว่างจ้าจนแทบแสบตา แต่ช่วยไม่ได้หรอก หากว่าคุณเคยมองเห็นสีดำแล้ว มืดหม่นจะติดตรึงในใจ ข้อความต่อไป และต่อ ๆ ไปบอกกับฉัน
        “ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กพ.ศ. 2546... เด็กเร่ร่อนหมายความว่า เด็กที่ไม่มีบิดามารดา หรือผู้ปกครอง หรือมีแต่ไม่เลี้ยงดู หรือไม่สามารถเลี้ยงดูได้จนเป็นเหตุให้เด็กต้องเร่ร่อนไปในที่ต่าง ๆ หรือเด็กที่มีพฤติกรรมใช้ชีวิตเร่ร่อนจนอาจจะเกิดอันตรายต่อสวัสดิภาพของตน”
        เด็กชายเร่ร่อนขอเงิน เนื้อตัวมีแต่รอยช้ำ พ่อแม่และพี่ชาย ตายายก็ไม่ต่างกัน
        เด็กเร่ร่อนป.3 ในบ้านขอทาน ฉันปิดคอมพิวเตอร์ลงแล้วหลับตา บันทึกเด็กชายไว้เช่นนั้น ไม่มีทางอื่นใดนอกจากจดจำ ในมุมมองของสีดำเช่นฉัน หากหวังจะช่วยสีดำให้หลุดพ้นจากสีดำ คงมีเพียงทางเดียวคือสวดมนต์ขอพร
        ก็ถ้าคุณยังเชื่อในความหวังอยู่บ้าง
        สีของความหวังเป็นอะไรได้บ้าง ?
        ปลายปีพ.ศ. 2563 ฝันของความหวังที่ฉันเห็นมีสีเหลือง ตาโตกลมใส ปากงอนน่ารัก อัดแน่นด้วยลม ตัวเบาถูกยกขึ้นล่องลอยในหมู่ฝูงชนรวมกัน เพื่อนของฉันคนหนึ่งอยู่ที่นั่นด้วย เธอบอกกับฉัน ไม่เกี่ยวกับการขับไล่ใครหรือร่างกฎหมายฉบับใด แค่ยาซึมเศร้าเธอหมด และโรงพยาบาลก็ปฏิเสธบัตรทอง เธอไม่เข้าใจว่ายารักษาโรคซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่กลายเป็นสิ่งที่เธอต้องดิ้นรนเอาเองได้อย่างไร คำถามนั้นจะดังก้องในหมู่ผู้ชุมนุม เธอเชื่อเช่นนั้นจนกระทั่งความหวังสีเหลืองถูกย้อมทับด้วยสีน้ำเงิน นักเรียนนักศึกษาวิ่งหนีสะดุดขาตัวเองล้มครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงอื้ออึงว่ามันอยู่ตรงนั้น จับมันให้ได้ ดวงตาเธอพร่าเลือนด้วยสารเคมีและนับจากนั้น ความหวังสำหรับเธอก็เป็นสีดำ
        ห้วงฝันของฉันสิ้นสุดลงแล้วเช่นกัน เมื่อกระเป๋ารถเมล์ตะโกนว่าตลาดบางปะกอก สะดุ้งตัวตื่นเดินลงจากรถ ผู้คนสวมใส่หน้ากาก เยาวชนของชาติอยู่บ้านเพื่อเรียนออนไลน์ ฉันเฝ้ามองหาเด็กชายสีดำที่ป่านนี้คงเรียนอยู่ชั้นประถมปลาย
        คุณคิดเหมือนฉันไหมว่า สีดำที่เคยสบตากัน มักจะหากันเจอเสมอ
        ท่ามกลางค่ำคืน สีดำแพร่กระจายในอากาศ สีดำของความกลัวและตัวโรค และสีดำที่ดักรอวอนขอ กระทั่งช่วงชิงเงินเพื่อความอยู่รอด ฉันนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมตรงป้ายรถเมล์ จนสีดำหน้าใหม่นั่งประกบซ้ายขวา ของแข็งจี้เข้าที่เอว ฉันสบตากับสีดำนั้นและยืนยันว่าไม่มีเงิน สีดำที่มองเห็นสีดำด้วยกันก็จากไป  
        แล้วเมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้งฉันก็เห็น บนสะพานลอย ซอกแคบมืดดำตรงขอบชานพักเลยจากราวบันได เด็กชายคนเดิมสวมเสื้อกันหนาวสีดำ ฮู้ดปิดคลุมหัว ดวงดาวคู่นั้นจ้องมองถนน
        “พี่ยังมองเห็นผมอยู่” ฉันยืนอยู่ด้านในราวสะพาน ใช้เวลาไม่นานเด็กชายก็ปีนกลับเข้ามา ส่วนสูงของเด็กชายเพิ่มขึ้นจนเกือบจะเท่ากัน ฉันไม่แน่ใจนักว่าสีสันที่ดวงตาเรามองเห็น ใกล้กัน เท่ากันมากน้อยอย่างไร
        ร้านในช่วงการแพร่ระบาดไม่อนุญาตให้นั่งกินนอกบ้านที่ไหนทั้งนั้น ร้านค้าป้าข้างทางเหลือแต่โครงกับป้ายคนละครึ่ง เราชนะ เรารักกัน ไฟสว่างจากร้านค้ามีเพียงเซเว่นทุกปากซอย เด็กชายยังคงเป็นดาวไถ ฉันพาดวงดาวเข้าห้าง
        เด็กชายกระซิบถาม ถ้าขอซื้อไก่เคเอฟซีจะได้ไหม
        ระหว่างรอไก่ทอดพร้อมเหล่าไรเดอร์เดลิเวอรี เด็กชายเสียงแตกหนุ่มแหบห้าว อวดสมาร์ทโฟนหน้าจอแตกร้าว การเรียนออนไลน์ของเด็กป.6 ไม่เคยสนุก ค่าอินเทอร์เน็ตยิ่งไม่สนุก สีดำข้างถนนเคยพยายามชิงมือถือไป ยื้อแย่งกันจนเครื่องตกกระแทกพื้น ใบหน้าเด็กชายมอมแมม แม้ปิดไว้ด้วยหน้ากาก แผลเป็นที่ศีรษะด้านซ้ายฝากรอยลึกเด่นชัดพอ ๆ กับรอยไถตรงหัวที่ผมไม่งอกขึ้นอีกเลย
        ฉันมองออกไปนอกร้าน สีดำคุ้นตานั่งอยู่ตรงเก้าอี้หน้าห้องน้ำห้าง ร่างนั้นคือป้าขอทานที่ฉันเห็นบ่อยบนสะพานลอยช่วงก่อนโควิดระบาด เพียงแต่ในวันนี้สีดำถูกย้อมทับด้วยเสื้อเขียว เด็กชายบอกฉันว่าคุณป้าคนนั้นคือแม่ของเขาเอง แม่ทำงานเป็นพนักงานเก็บขยะ พี่ชายเพิ่งได้ทำงานที่เซเว่น ส่วนพ่อก็ทำงานกับแม่ที่นี่มาตั้งนานแล้ว
        ไก่ทอดมาส่งอย่างดีในกล่องแดง ฉันแยกจากเด็กชายที่ตรงนั้น ความคิดสับสนปนเป เด็กเร่ร่อนในความทรงจำ เด็กเร่ร่อนป.3 ในบ้านขอทาน เปลี่ยนใหม่ไปเป็นใคร ?
        คุณพอจะช่วยฉันจดจำหน่อยได้ไหม ความจำของฉันและคุณอาจจะต่างกัน เด็กชายที่ฉันจำได้ ทุกคนในบ้านเร่ขอเงิน พ่อขอเงินป้ายรถเมล์ แม่ขอที่สะพานลอย พี่ชายอยู่หน้าโรงพยาบาล ตากับยายเป็นขอทาน แต่ครอบครัวของเด็กชายวันนี้มีงานทำ เด็กชายมีสมาร์ทโฟนใช้ ถึงอย่างนั้นเด็กชายก็ยังเร่ขอเงินบนสะพานลอย ฉันเริ่มไม่แน่ใจในการมองเห็น ดูเหมือนว่าสีสันที่เป็นไปไกลเกินขอบเขตของดวงตา
        เด็กเร่ร่อนเกิดจากอะไร? ผลการค้นหานำฉันกลับไปสู่เอกสารชิ้นเดิม เนื้อความในนั้นบอกว่าเด็กเร่ร่อนเกิดจากปัญหาครอบครัว ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาที่ตัวเด็ก หรือแม้แต่การถูกโรงเรียนลงโทษ
        ฉันปิดเอกสารนั้น ข้อมูลในอินเทอร์เน็ตอีกนับร้อยพัน ก็ประมวลสีสันของเด็กชายไม่ได้
        คุณคงจะรู้อยู่แล้วล่ะ ในการทำความเข้าใจชีวิตคนหนึ่งคน กูเกิลไม่ได้ช่วยอะไร
        แต่เราจะพยายามทำความเข้าใจชีวิตใครไปทำไม ฉันก็ตอบตัวเองไม่ได้ ไม่ง่ายเหมือนป้อนคำถามแล้วตามหาคำตอบในอินเทอร์เน็ต ต่อให้ไม่รู้คำตอบ ตื่นมาอีกวัน ขาทั้งสองข้างก็พาฉันเดินเข้าซอกซอยไปจากตึก A B C D ที่ตัวเองรู้จัก ลึกเข้าไปสู่ E F G H
        เวลาบ่ายโมงไม่ได้เหมาะกับสีดำอย่างฉัน แต่แสงสว่างทั่วไปก็ผสมด้วยสีดำ วินมอเตอร์ไซค์หน้าตึกหันไปแทงหวย ผู้คนตั้งวงดื่มเหล้าหน้าโต๊ะยามตั้งแต่หัววัน ร้านไปรษณีย์รับส่งของทั้งขาวและดำลึกไปไกลกว่านั้น ตึก I J K L พ้นไปจากภาพที่ฉันรู้จัก ผู้คนในที่สว่าง เดาไม่ออกว่าซ่อนเงาแบบใดไว้ข้างหลัง ฉันเพียงแต่ลองใช้ความเป็นไปได้ของโชคชะตา เดินหาดวงดาวในยามกลางวัน
        และในที่สุด ฉันได้เห็นเด็กชายอีกครั้ง ฉันบอกคุณแล้ว สีดำที่เคยสบตากัน มักจะหากันเจอเสมอ
        “พี่เห็นผมอีกแล้ว”
        ดาวไถไม่เรืองแสงในยามกลางวัน เด็กชายซื้อน้ำอัดลมห้อยถุงในร้านชำที่มีป้ายโครงการเราชนะ เด็กชายที่ฉันไม่รู้แม้แต่ชื่อส่งยิ้มให้เหมือนคุ้นเคยกันมานาน ฉันเดินตามเด็กชายไปเรื่อย เรื่องราวสีดำเล่าผ่านสายตาของเด็กชายทั้งคราบดำถาวรของผู้คนที่กลายเป็นขีดขาวบนพื้นถนน กิจกรรมข้างหลังผ้ากั้นหลังร้านตามสั่ง การจองที่จอดรถหน้าตึกด้วยการแขวนป้ายพร้อมห้อยผ้าอนามัยใช้แล้ว เด็กชายชี้ที่จุดเกิดเหตุแล้วยิ้มให้ฉัน ครอบครัวเขาอยู่ที่ตึกนี้  
        บันไดเดินขึ้นสู่ชั้นห้าอันเป็นจุดสูงสุดของตึก ก้าวตามเด็กชายทีละขั้นช้า ๆ ฉันเพิ่งสังเกตว่าตึกของฉันและเด็กชายไม่มีอะไรใกล้เคียงกันเลย ผู้คน ข้าวของ กลิ่นผนัง แสงไฟ แมวจรตามระเบียงตึก เศษก้นบุหรี่เสลดน้ำลายถ่มถุย เสียงไอค่อกแค่กโควิด-19 ถึงอยู่ในช่วงโรคระบาด แต่ฉันและเด็กชายในตอนนี้ เราทั้งคู่ไม่ได้ใส่หน้ากาก
        ห้องหัวมุมบันไดฝั่งขวาชั้นห้ามีศาลเจ้าหัก ๆ กองอยู่พร้อมโต๊ะ เตียง ตู้ ข้าวของวางล้นกินพื้นที่ทางเดิน เด็กชายไขกุญแจแล้วเดินหายเข้าห้องนั้น พูดคุยกับคนด้านใน สักพักก็กวักมือเรียกให้ฉันเดินเข้าไป
        ข้างในห้องนั้นเป็นสีขาว
        ผนังขาว ข้าวของวางเรียบร้อยตกแต่งอย่างดี หลุดจากมิติความรกวุ่นวายภายนอก หญิงขอทานที่ฉันคุ้นหน้าสวมใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ นั่งให้นมลูกเล็กอายุประมาณไม่เกินขวบ เด็กชายวางเครื่องดื่มที่ซื้อจากร้านชำไว้ข้างผู้เป็นแม่ เธอยิ้มให้ฉัน กล่าวขอบคุณในความใจดีที่เคยพาลูกชายไปเลี้ยงข้าว
        ไม่มีกระจก ฉันจึงไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำหน้าแบบไหน แต่หากถามแล้วตอบตัวเองว่ารู้สึกอะไร ฉันคิดว่ากำลังสับสน
        ลูกเล็กที่เพิ่มขึ้นมา ตาและยายที่หายไป มากไปกว่านั้น คือสีสันในห้องที่ฉันไม่คิดว่าจะได้เห็นกล่องใส่เงินวางอยู่เป็นระเบียบอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง ราวกับกล่องบริจาคตามวัดที่แบ่งแยกประเภทการใช้จ่ายชัดเจนค่าเทอม ค่ากิน ค่าน้ำ ค่าไฟ เงินในแต่ละกล่องนั้นมีจำนวนไม่น้อยทีเดียว
        ระบบประมวลสีของฉันเปลี่ยนไป อะไรกันที่แปลกจากสิ่งที่เคยเชื่อ เคยรู้สึก ฉันยังตอบตัวเองไม่ได้ แต่คำถามหนึ่งก็เกิดขึ้นในใจ ทั้งที่มีงานทำ มีเงินใช้ แล้วทำไมยังต้องเร่ขอเงินคน
        แม่และลูกชายจ้องมองฉัน ดวงดาวเจิดแสงเสียจนตาพร่า มีงานทำ คนละความหมายกันกับมีเงิน งานเก็บขยะที่ทำทั้งพ่อทั้งแม่รวมกันไม่พอเป็นรายได้เลี้ยงดูเด็กที่เกิดใหม่ด้วยซ้ำ ต่อให้พี่ชายทำงานเซเว่นเพื่อช่วยเหลือก็ไม่พอกินพอใช้ และสำหรับเธอแล้ว การขอเงินคนโดยไม่บังคับขู่เข็ญ วิ่งราวชิงทรัพย์ หรือทำร้ายร่างกาย ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร
        ห้องแห่งนี้มีเพียงสีขาวและดวงดาวเจิดแสง ฉันเองที่เป็นสีดำ
        ที่นี่ไม่มีสิ่งใดใกล้เคียงกับห้องที่ฉันอาศัยอยู่ ร่องรอยความรุนแรงบนเนื้อตัวเด็กชายเกิดจากครูและรุ่นพี่ที่โรงเรียน ห้องยี่สิบหกตารางวาที่นี่อบอุ่น ฉันยิ้มให้กับตัวเองที่กลางห้องนั้นรู้ตัวอีกที แม่และเด็กชายก็ประกบซ้ายขวา พวกเขาถาม แล้วฉันล่ะ ตัวฉันเองเป็นใคร
        ภายใต้เสื้อผ้า รอยแตกตามเนื้อตัวที่ฉันไม่ได้บอก ห้องที่ฉันเลือกกลับไปแค่ตอนดึกดื่น และป้ายรถเมล์ก็เป็นที่ประจำเสมอในยามค่ำคืน ฉันตอบพวกเขาได้เพียงรอยยิ้ม ความรู้สึกแปลกแยกแตกต่างผุดขึ้นมาไออุ่นความสว่างในห้องสีขาวราวจะปัดเป่าทุกความเลวร้าย แต่พอเสียงไอและเสียงกรีดร้องดังขึ้นข้างนอกนัน การมองเห็นของฉันก็เปลี่ยนแปลงไป
        พวกเขาบอก รถพยาบาลรับคนออกไปจากตึกแล้วไม่เคยพากลับมา แขนของทุกคนยังโล่งจากเข็มวัคซีน และโทรศัพท์มือถือยังลงทะเบียนสิทธิคนละครึ่งไม่ได้  
        ขาวเจิดจ้าที่ฉาบทาค่อย ๆ ลบเลือนเมื่อสีดำคืบคลานเข้ามา สีดำที่ฉันเคยเห็นกระจัดกระจายเป็นหลายหลากสี สีดำไม่ได้เป็นเพียงแต่ดำ หากเป็นผลรวมจากหลายสีสันที่สาดลงไป สีใดกันเล่าที่ย้อมพวกเราไว้ในความมืด หลงเหลือเพียงดวงดาวในตัวเอง
        “พี่เห็นผมชัดพอหรือยัง ?” เด็กชายและแม่ยิ้มให้ฉัน ดวงตาแวววาวราวกระจกสะท้อน เช่นเดียวกับฉันในตอนนี้ จับจ้องมองคุณ  
        การมอง และการเห็น ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน หากสายตาคุณมองไกลและเห็นได้หลายระดับสีข้างในนั้น โปรดมอง ถาม และตอบต่อตัวเอง
        สีดำที่คุณเห็นเป็นอย่างไร ?

อ้างอิง : [1] สืบค้นจาก https://www.parliament.go.th/ewtcommittee/ewt/special/download/article/article_20140528151704.pdf
 
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.sac.or.th/portal/th/article/detail/479
ข่าวก่อนหน้า
แชร์ข่าวนี้
Share
ข่าวถัดไป
ตะกร้าสินค้า
ลงชื่อเข้าใช้งาน
เพื่อเว็บไซต์จะแนะนำหนังสือ
ในหมวดหมู่ที่คุณอาจสนใจได้ทันที
ลืมรหัสผ่าน?
กรุณากรอกอีเมลที่ท่านสมัครสมาชิกไว้เพื่อรับรหัสผ่านใหม่
ระบบจัดส่งการสร้างรหัสผ่านใหม่ให้ท่านทางอีเมลเรียบร้อยแล้ว
นโยบายความเป็นส่วนตัว